สวัสดีสาว ๆ ที่ชื่นชอบในเรื่องผีและเรื่องเร้นลับทั้งหลาย ซึ่งบทความนี้ก็เป็นบทความแรกที่ Jelly ได้มีการเรียบเรียงเรื่องผีของแต่ละมหาวิทยาลัยมาให้สาว ๆ ได้อ่านเพิ่มความหลอน ซึ่งอาจจะมีทั้งเรื่องใหม่และเรื่องเก่า เอาเป็นว่าจะหลอนแค่ไหนแล้วใครเรียนอยู่ที่ไหนบ้าง มาอ่านไปพร้อมกันเลยดีกว่าค่ะ
มหาวิทยาลัยขอนแก่น
คุณยายไฮสปีด :
เป็นเรื่องผียอดฮิตสำหรับมหาวิทยาลัยนี้เลยก็ว่าได้ มีเรื่องเล่าอยู่ว่าแต่ก่อนจะมีผู้หญิงแก่คนหนึ่งที่ชอบวิ่งตามรถมอเตอร์ไซค์ แถมปั๊ม ปตท. ตอนแรกยืนจะอยู่ตรงแถวสามแยกเพื่อโบกรถ ผ่านไปสักพักผู้หญิงแก่คนนั้นได้เสียชีวิตลงแต่ก็ยังมีคนเห็นเธอมายืนโบกรถหน้าปั๊ม ถ้าหากใครเห็นเธอแล้วไม่จอดเธอก็จะวิ่งตาม ยิ่งบิดคันเร่งหนีเธอยิ่งวิ่งตามเร็วขึ้นจนเกือบทันรถ และที่น่าแปลกก็คือเวลาที่วิ่งผ่านตรงที่มืด ๆ จะเห็นว่าเธอวิ่งตาม แต่พออยู่ตรงเสาไฟสว่างๆ เธอก็จะหายไป เห็นๆ หายๆ (เขาเรียกกันว่าคุณยายไฮสปีด แกวิ่งตามแต่มอเตอร์ไซค์ ส่วนรถยนต์แกจะขึ้นมานั่งเลย)
ตำนานสะพานขาว :
ซึ่งแต่ก่อนพื้นที่ของมหาวิทยาลัยนั้นใช้ฝังศพจากการรบระหว่างคอมมิวนิสต์กับตำรวจทหาร และมีช่วงหนึ่งที่คู่รักหนุ่มสาวขับมอเตอร์ไซค์ไปด้วยกันแล้วมีใครไม่รู้เอาลวดสลิงมาขึงช่วงกลางสะพาน ทำให้ผู้หญิงคอขาดแต่ผู้ชายยังไม่รู้เพราะก้มขับรถมอเตอร์ไซค์ ไปรู้ตัวเมื่อถึงปั๊มน้ำมันจากนั้นก็มีอุบัติเหตุหลายครั้งเกิดขึ้นบนสะพานขาว
มีครั้งหนึ่งที่ชายคนหนึ่งขับรถเข้าไปในมหาวิทยาลัยตอนเที่ยงคืนแล้วผ่านสะพานขาว อยู่ดี ๆ วิทยุก็ดับพอเปิดใหม่ก็เป็นเพลงธรณีกรรแสงดังขึ้น ทันใดนั้นเขาหันไปเห็นคนสองคนแล้วเครื่องยนต์ก็ดับ พอสองคนนั้นเดินเข้ามาใกล้ก็เห็นว่าผู้ชายไม่มีแขน ส่วนผู้หญิงหิ้วหัวตัวเองอยู่และทั้งคู่ยิ้มให้เขา
โดนแล้วล่ะ :
เรื่องมันก็เกิดขึ้นเพราะนักศึกษาแพทย์ฟังเรื่องเล่ามาจากรุ่นพี่ว่า ชั้น 4 ของคณะมีผี แต่ก็ไม่เชื่อเลยไปพิสูจน์แต่ไม่มีใครเป็นเพื่อนเพราะกลัว นักศึกษาปี 1 คนนั้นก็เลยไปทีละห้องแล้วทำทุกวิธีที่เห็นผีได้แต่ทำแล้วก็ไม่เห็น จึงเดินไปล้างหน้าที่ห้องน้ำแล้วทำหน้าทะเล้นแลบลิ้นปลื้นตาใส่กระจก วันต่อมานักศึกษาคนนี้ได้ไปเล่าให้เพื่อนฟังแต่เพื่อนบอกว่าโดนแล้วล่ะเพราะห้องน้ำชั้น 4 ไม่มีกระจก แล้วคนที่เห็นในกระจกนั่นเป็นใคร
เครดิต : https://pantip.com/topic/34821716
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ : ลิฟท์แดง ตึกคณะศิลปศาสตร์
ถือว่าเป็นเรื่องผีสุดหลอนที่เล่าต่อกันมาว่า ตอนเหตุการณ์จราจล 14 ตุลาฯ ที่เหล่าทหารได้บุกเข้ามากราดยิง ทำให้นักศึกษาและชาวบ้านต่างพากันเข้ามาหลบในลิฟท์ ซึ่งพอลิฟท์เปิดทหารก็กระหน่ำยิงทุกคนให้เสียชีวิตเลือดกระจายท่วมลิฟท์ ภายหลังได้มีการบูรณะและทำความสะอาดแล้วแต่ทำยังไงคราบเลือดก็เช็ดออกไม่หมด จึงทำให้ต้องทาลิฟท์ตัวนั้นให้เป็นสีแดง ปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนลิฟท์ตัวใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้วแต่ก็ยังมีคนเจอผี ทั้งในรูปแบบเสียงและภาพที่มาเต็ม
มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา : พี่จุก ที่ห้องดนตรีไทย
ว่ากันว่าห้องดนตรีไทยเป็นห้องที่เก็บของเก่าแก่ตั้งแต่สมัยที่เรายังไม่เกิด ซึ่งเราก็ไม่ทราบประวัติที่แน่ชัดว่ามันผ่านอะไรมาบ้าง ซึ่งในห้องดนตรีไทยมีเสียงเล่าลือกันว่ามีกุมารทองอยู่ 2 ตน พี่จุกคือสีแดง ส่วนสีชมพูคือเพื่อนพี่จุก ครั้งหนึ่งระหว่างการรับน้องของคณะ เด็กปี 1 คนนึงเกิดกรี๊ดสนั่นขึ้นมาก่อนจะตะโกนว่า “กูจะเอาไปด้วย กูจะเอาไปด้วย” มารู้ตอนหลังว่าเป็นพี่จุกที่ไปเข้าสิง เขาโกรธที่ย้ายห้องดนตรีขึ้นมาบนตึกแล้วไม่เอาเขาขึ้นไปด้วย เขาเหงา
มหาวิทยาลัยศิลปากร เขตพระราชวังสนามจันทร์
ลานทรงพล :
ที่เราเห็นกันว่าเป็นลานกว้าง มีต้นไม้เขียวขจีและดูร่มรื่นนั้น หากได้ฟังประวัติแล้วแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยว่า ลานทรงพลที่สวยงามแบบนี้เคยเป็นลานประหารเก่า บ้างก็ว่าห้ามสวดชินบัญชร บ้างก็ว่าเห็นผู้หญิงนุ่งห่มสไบ
ชั้นสองตึกอักษรฯ :
คณะอักษรศาสตร์ ก็นับได้ว่าเป็นคณะแรกของวิทยาเขตสนามจันทร์ ก็มีตำนานเล่าขานเรื่องผีกันว่าที่ชั้นสองของตึกคณะ มีหลายคนเคยพบเห็นคนโบราณนุ่งโจงกระเบนสีแดงสด
ศาลหน้าตึกอักษรฯ :
เคยมีนักศึกษาคนหนึ่งขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามาไหว้ศาลหน้าตึกอักษรฯ แล้วก็ขับออกไป สักพักนักศึกษาคนนั้นได้ยินเสียงครูดราดจากด้านหลังจึงหันกลับไปมอง เห็นร่างคนที่มีเพียงครึ่งตัวคลานตามมาอย่างรวดเร็ว และนอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าสยองขวัญอีกว่าศาลนี้ศักดิ์สิทธิ์มาก ขออะไรก็จะสำเร็จโดยมีกฎว่า "ขอได้แต่ห้ามบน" ซึ่งเคยมีนักศึกษาคนหนึ่งมาบนเรื่องสอบ ปรากฎว่าสอบได้แล้วลืมไปแก้บน นักศึกษาคนนั้นก็ฝันว่าตัวไปอยู่ในโรงละครทรงพลพร้อมกลุ่มเพื่อนที่ไปบนด้วยกัน แล้วก็มีเพชฌฆาตร่างสูงใหญ่ เดินมาฟันหัวพวกเขาทีละคน
สะพานข้ามดาว :
เวลาเที่ยงคืนห้ามปั่นจักรยานผ่านสะพานข้ามดาว หากไปปั่นว่ากันว่าอาจจะไม่ได้กลับมายังที่เดิม หรือได้เจอเหตุการณ์ที่น่าพิศวง
เพลงกลิ่นจันทร์ :
เพลงกลิ่นจันทร์เป็นเพลงประจำมหาวิทยาลัยศิลปากร หากใครเผลอร้องยามค่ำคืนจะต้องร้องให้จบไม่งั้นจะเห็นผู้หญิงใส่ชุดไทย
ตึกศิลป์ 3 คณะมัณฑนศิลป์ :
เรื่องนี้เกิดขึ้นกับตัวนักศึกษาคนหนึ่งในช่วงรับน้อง จะต้องอยู่ที่มหาวิทยาลัยกับจนดึกดื่นเตรียมทำพร๊อพ ระหว่างนั้นเองก็มีเพื่อนอีกคนควักเอากล้องวิดีโอขึ้นมาถ่าย ปรากฎว่าระหว่างถ่ายเขาเห็นผู้หญิงใส่ชุดขาววาบผ่านหน้ากล้องไป เพื่อนคนนี้ก็ตกใจรีบเรียกเพื่อนๆมาดู ก็กรอเทปย้อนกลับไป แล้วพอเปิดเล่นใหม่อีกครั้งก็ยังพบว่าถ่ายติดผู้หญิงชุดขาวคนนั้นอยู่ในกล้องด้วย ทุกคนต่างก็ตกใจจึงรีบลบออกทันที
เรือนนางสนม :
เรือนนี้ไม่ได้บอกว่าเป็นของนางสนมผู้ใด แต่เป็นเรือนที่มีอายุเก่าแก่ตั้งแต่สมัย ร.5 ซึ่งเรื่องเล่าเยอะมากตั้งแต่ถ้าไปปั่นจักรยานผ่านหน้าเรือนนางสนมตอนดึกจะรู้สึกว่ารถหนักขึ้น หันหลังไปจะเห็นมีผู้หญิงชุดไทยไม่มีหน้านั่งซ้อนหลังอยู่ แถมไม่นั่งอย่างเดียว เอาเล็บยาวเฟื้อยลากพื้นไปด้วยอีกต่างหาก
และอาจารย์เอเล่าให้ฟังว่าเหตุผลที่บ้านหลังนี้ปัจจุบันต้องปิดหน้าต่าง ก็เพราะว่าคนผ่านไปผ่านมาชอบเห็นผู้หญิงรำอยู่ในตัวเรือน เมื่อเข้าไปในเรือนจะไม่เจออะไร แต่อยู่นอกเรือนมันจะเจอผี
สระแก้ว :
แต่เดิมใช้เป็นที่ถ่วงน้ำนักโทษ เคยมีคนมาเล่าให้ฟังด้วยว่าเคยงมพบลูกตุ้มถ่วงน้ำจากในสระ อันนี้จริงเท็จยังไงผมไม่ทราบจริง ๆ เพราะไม่ได้ลงไปดำดู
ผีสไบเขียว-สไบแดง :
อาจารย์เอเล่าให้ฟังว่าซัก 8-9 ปีที่แล้วนับจากสมัยแกยังเป็นนักศึกษา สมัยนั้นส่วนใหญ่คนจะขี่จักรยานในมอกัน หากปั่นเส้นเลียบคลองตอนเที่ยงคืน (ตอนนี้เป็นตึกหมดแล้ว) ปั่นไปเค้าว่าจะเจอผู้หญิงใส่ชุดไทยโบกมือให้จากริมคลอง ถ้าเจอผีสไบขียวก็โชคดีไป แต่ถ้าเจอผีสไบแดง ห้ามหันไปมองให้เค้ารู้ตัวเด็ดขาด ไม่งั้นเค้าจะตามกลับไปบ้าน
เครดิต : https://pantip.com/topic/32613119
ได้อ่านเรื่องผีหลอน ๆ พอสังเขปกันแล้วเป็นยังไงบ้างคะสาว ๆ บางสิ่งที่เรามองไม่เห็นใช่ว่ามันจะไม่มีอยู่จริง ถึงแม้เราอาจจะสัมผัสไม่ได้แต่คนอื่นสัมผัสได้ เพราะฉะนั้นก็ไม่ควรกระทำการลบหลู่หากมีโอกาสได้ไปยังสถานที่เหล่านี้ เอาเป็นว่าบทความนี้อ่านเพื่อความบันเทิงไปก็แล้วกันนะคะ
