เคยได้ยินไหมว่า ‘บทเพลงช่วยเยียวยาหัวใจคนได้’ เราเป็นคนหนึ่งที่ชอบเปิดเพลงฟังแล้วปล่อยให้ระบบมันแรนด้อมไปเรื่อย ๆ จนวันนึงมันแรนด้อมแบบบังเอิญมาเจอเพลง ๆ นึงชื่อว่า 'ห้องกระจก' แค่อินโทรขึ้นมาครั้งแรกก็แบบ เหมือนพาเราหลุดเข้าไปอีกโลกนึงเลยอะ (เวอร์ป่ะ ?) ตอนฟังก็ไม่รู้นะว่าดนตรีแบบนี้เรียกว่าอะไร แค่รู้สึกว่าทุกอย่างในเพลงมันดึงความรู้สึกเราได้ดีมาก ๆ เลยนั่งไล่ฟังเพลงเก่า ๆ จนครบหมดแล้วก็เปิดวนฟังหลายรอบมากกกก รู้ตัวอีกที Safeplanet ก็กลายเป็นอีกหนึ่งวงโปรดของเราไปแล้ว...
วันนี้ jelly เพิ่งจะมีโอกาสได้มาพูดคุยกับ 3 หนุ่ม เอ ดอย ยี่ สมาชิกวง safeplanet เพื่อทำความรู้จักกับตัวตนที่แท้จริง มุมมองและเบื้องหลังการทำเพลงของพวกเขาที่แฟน ๆ เซฟบอยหลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อน ว่าแล้วก็ตามมารู้จักกับพวกเขาให้มากขึ้นผ่านบทสัมภาษณ์นี้กันเถอะ!
💫 ทำไมต้อง Safeplanet ?
เอ : Safeplanet เหมือนเป็นพื้นที่ปลอดภัยของเรา ที่เราจะครีเอทงานอะไรก็ได้เนอะ
ดอย : ใช่ครับ
เอ : เป็นสไตล์ของเราที่เราสบายใจ รู้สึกสบายใจในชื่อนี้ วงนี้ ก็เลยกลายเป็น Safeplanet ครับ
💫 แต่ละคนมารวมตัวกันได้ยังไง ?
เอ : ครับ เริ่มจากผมกับดอยทำวงเก่าด้วยกัน แล้วก็วงแตกไป เหลือแค่สองคนที่มีสไตล์ใกล้เคียงกัน ก็เลยมาฟอร์มเป็น Safeplanet
ดอย : แล้วก็น้องยี่เป็นรุ่นน้องที่มหิดล สไตล์ใกล้เคียงกัน ก็เลยชวนมาอยู่ด้วยกันครับ
💫 มีวิธีดีไซน์ซาวน์ยังไงให้ออกมาติดหู ?
เอ : น่าจะดีไซน์จากธรรมชาติของเราเลยป่ะ เหมือนเราพยายามเล่นอย่างอื่น มันก็ออกมาคล้าย ๆ แบบนี้ น่าจะเป็นตัวตนของเรานะ แต่เราก็ เริ่มจากกีตาร์แบนด์ ที่มีเอเลเมนท์ต่าง ๆ พวกคอรัส พวกเครื่องเคาะ ผสมผสานไป แต่ว่าพื้นฐานก็เป็นดนตรีป๊อบ
💫 คิดว่าเพลงของ Safeplanet เข้าถึงยากไหม ?
ยี่ : ไม่ยากครับ ด้วยความที่เมโลดี้มีความเป็นป๊อบอยู่แล้ว
เอ : ก็พยายามทำเมโลดี้ให้มันติดหู ทำเนื้อหาให้เข้าใจได้ง่าย แล้วเราก็ไปลงกับดนตรีแทน
ดอย : เพลงแรก ๆ อาจจะเข้าใจยากนิดนึง เพราะมันเป็นเหมือนเรื่องส่วนตัวมากกว่า
เอ : เหมือนช่วงแรก ๆ เรากำลังทดลองกันอยู่ แต่ช่วงหลังก็เริ่มคลี่คลาย อยากทำให้คนเข้าใจมากขึ้น
💫 แนวเพลง Safeplanet เปรียบได้กับผู้หญิงแบบไหน ?
ดอย : ผมว่าผู้หญิงแบบ Safeplanet เป็นผู้หญิงที่น่าจะแปลกแยกกว่าคนอื่นนิดนึง สมมติว่ามีคนในห้องสิบคน อาจจะเจาะหู หรือว่ามีรอยสัก เป็นผู้หญิงที่น่าค้นหา มองไปเรื่อย ๆ ก็จะมีเสน่ห์ขึ้นเรื่อย ๆ
เอ : อย่างแรกก็... น่าจะสวยอะครับ (หัวเราะ) เป็นคนสวยที่น่าค้นหา มีความแตกต่างจากคนสวยทั่วไป ค่อนข้างเป็นคนสวยที่มีสไตล์ในความคิดผม
ยี่ : น่าจะเป็นผู้หญิงที่มีโลกส่วนตัวสูงครับ รักการผจญภัย ชอบท่องเที่ยว ชอบธรรมชาติ
เอ : เฮ้ย ๆ ตอบดี
💫 คิดว่าตัวเองเป็นผู้ชายสไตล์ไหน ?
ดอย : ผมคิดว่าผมเป็นผู้ชายทั่วไป บางทีก็มีมุมผู้หญิงอะไรเงี้ยครับ ด้วยความที่เราคิดเยอะ จุกจิกนิดหน่อย แต่โดยรวมแล้วก็เป็นผู้ชายที่ดีฮะ (หัวเราะเขิน) อ่ะ ตานายละ (โบ้ยไปที่เอ)
เอ : เอ่อ ก็เป็นผู้ชายขี้อายครับ คล้าย ๆ ดอย ก็มีความคิดมาก ย้ำคิดย้ำทำ แล้วก็เป็นผู้ชายที่ดีครับ (ฮาาา)
ยี่ : น่าจะเป็นคนขี้อายครับ
เอ : นี่มันตอบตาม ๆ กันนี่หว่าาา
ยี่ : แต่ถ้าอยู่กับคนที่สนิทก็จะพูดมาก แล้วก็น่าจะเป็นคนเอาแต่ใจพอสมควรครับ
เอ : ฮ่า ๆ เป็นผู้ชายที่ไม่ดีครับ
💫 สเปคผู้หญิงของแต่ละคน ?
ยี่ : ต้องเป็นคนใจกว้างครับ ชอบไปเที่ยว ชอบกินอะไรคล้าย ๆ กัน ชอบฟังเพลงเหมือน ๆ กัน แล้วก็ให้คำปรึกษาได้ในเวลาที่เราต้องการคำปรึกษา ก็คือเหมือนช่วย ๆ กันได้ประมาณนี้อะครับ
เอ : ต้องฟังเพลงครับอย่างแรก ชอบผู้หญิงฟังเพลง แต่งตัว ชอบเดินทาง ชอบท่องเที่ยวไปที่ต่าง ๆ แล้วก็ชอบกิน เพราะผมก็ชอบกิน ประมาณนั้นครับ... ง่าย ๆ
ดอย : สเปคของผมหรอครับ มันก็จะมีภายนอกกับภายใน ภายนอกชอบคนหมวย ๆ หมวยอินเตอร์หน้าร้าย ๆ นิด ๆ เซ็กซี่หน่อย ๆ แต่ถ้าภายในก็ชอบคนที่จิตใจดี รักครอบครัว เข้าใจในสิ่งที่เราเป็น ชอบคนลุย ๆ ไปไหนไปกัน ชอบท่องเที่ยว ดนตรี ศิลปะ เสื้อผ้า แล้วก็...
เอ : หลายคนแล้วนะ... โอเค ๆ โทษ ๆ คนเดียวกัน (ฮาาา)
ยี่ : คนเดียวกันครับ ทุกอย่างอยู่ในคนเดียวกัน (หัวเราะ) ชอบคนที่รักครอบครัวครับ
💫 ช่วงนี้ฟังเพลงวงอะไรอยู่บ้าง ?
ดอย : ของผมช่วงนี้ชื่อวง Bahamas ครับ แล้วก็อย่างอื่นก็มี Tyler ครับ
เอ : ของผมก็มี Tyler อัลบั้ม IGOR ที่เพิ่งปล่อยออกไป แล้วก็ Biffy Clyro อัลบั้มใหม่ แล้วก็ Modest Mouse อีกวงนึง ช่วงนี้ติดฟังด้วยกัน 3 วง
ยี่ : ผมฟัง Sleep Lazy อัลบั้มใหม่ ตอนนี้ชอบฟังเพลงที่มันเบา ๆ หน่อย เพราะว่าทัวร์แล้วได้ฟังเสียงเยอะ ก็จะฟังแบบ Walt Disney อะไรแบบเนี้ย (หัวเราะ) มันจะมีเครื่องสายไง เพราะว่าเดี๋ยวคอนเสิร์ตใหญ่เราก็จะมีเครื่องสาย แล้วก็ Frank Ocean อัลบั้ม Endless ครับ
💫 เล่าเพลงใหม่ 'ข้างกาย' ให้ฟังหน่อย
เอ : หนึ่งก็คือให้คนที่เรารักด้วย เหมือนเค้าเจอเรื่องอะไรมา เราจะเป็นคนรับตรงนั้น เราจะเป็นคนช่วยประคองให้ แล้วก็อีกส่วนหนึ่งก็ให้แฟนเพลงด้วยครับ เรารู้สึกว่าเค้าอยู่ข้างเรามาตลอด
ดอย : ตอนแรกเอได้เมโลดี้มาก่อน แล้วเพลงมันรู้สึกสดใส คึกคัก ก็แต่งกันมาเรื่อย ๆ จนมันออกมาเป็นแบบเนี้ย เหมือนเป็นเพลงด้านบวกมากขึ้นของวงด้วย เป็นเพลงที่ไม่ได้แต่งเพื่อตัวเองละ แต่งเพื่อคนอื่นบ้าง เป็นเพลงที่เหมือนแต่งให้คนที่เรารัก ก็เอาไว้ใช้จีบสาวได้ (หัวเราะ)
เอ : ถูกต้องนะครับ (ฮาาา) นั่นแหละ ยี่ครับ...
ยี่ : ก็ยังจำวันแรกที่เหมือนแบบอยู่หน้าคอมกัน 3 คน แล้วก็เหมือนได้ดนตรี ดื่อ ดื่อ ดือ ดื๊อ อันนั้นมาอันแรกเลยครับ ของข้างกาย ก็เหมือนวนอันนั้นไปเรื่อย ๆ แล้วก็รู้สึกว่ามันเหมือนจะเป็นอะไรที่แบบนำเพลงไปได้
เอ : ส่วนใหญ่เราก็แต่งเพลงจากฟีลก่อน แบบว่าถ้าอันนี้มันดูสดใส เราก็ถึงจะเริ่มเล่าเรื่องว่าดนตรีมันไปทางสว่างนะ ก็เลยเป็นเพลงข้างกายขึ้นมา
💫 ความรักในมุมมองของแต่ละคน ?
ดอย : ความรักของผมหรอครับ... คือการที่คนสองคนอยู่ด้วยกันแล้วก็เข้าใจกัน ร่วมกันสร้างอะไรขึ้นมาอย่างนึงแล้วก็ฟันฝ่ามันไปได้ มีทั้งความผิดหวัง ความเข้าใจ น้ำตา รอยยิ้ม
เอ : ชอบคนที่เข้าใจ แล้วก็ซัพพอร์ตในสิ่งที่เราเป็น หรือทางที่เราเลือก อย่างที่ดอยบอก ก็อยากได้คนที่ช่วยกันสร้าง ช่วยกันประคอง ทั้งเรื่องจิตใจและการเงิน เหมือนคนที่ทำให้ชีวิตเราดีขึ้น
ยี่ : ความรักมันคือการหวังดีแบบไม่ได้หวังอะไรตอบแทน พร้อมที่จะสนับสนุนกัน ให้อภัยกัน เวลาที่อีกฝ่ายทำอะไรไม่ดี
💫 นอกจาก Safeplanet แต่ละคนทำอะไรกันบ้าง ?
เอ : ผมไม่ได้ทำอะไรเลยครับ ทำเพลงอย่างเดียว เพราะเคยทำงานประจำ แล้วก็ออกมาทำ Safeplanet ครับ ตอนนี้ก็เลยทำ Safeplanet อย่างเดียว
ดอย : ผมก็ไม่ได้ทำอะไรเลยครับ ทำแต่ Safeplanet แต่สิ่งที่ชอบอย่างนึงก็คือ... เสื้อผ้าครับ ชอบใส่เสื้อผ้า (ฮาาา)
ยี่ : เหมือนกันเลยครับ อาจจะมีรับจ็อบไปเล่นแจ๊สบ้างนิดหน่อย แต่ว่าหลัก ๆ ก็เป็นดนตรี
💫 ถ้ามีเวลาว่าง 1 วัน ?
เอ : พาแมวไปทำหมัน (หัวเราะ) ตอนนี้หาเวลาอยู่ครับ มี 11 ตัวที่บ้าน ไม่ไหวแล้วครับ ต้องทำแล้วแหละ
ดอย : ถ้ามีแค่วันเดียวใช่มั้ยครับ...
ยี่ : ซักผ้า ? (หัวเราะ)
ดอย : จริง ๆ ถ้ามีเวลาว่างหนึ่งวันก็อยากอยู่ห้องเฉย ๆ ครับ เพราะช่วงนี้ไม่ค่อยได้อยู่ห้อง จริง ๆ อยู่ห้องก็เป็นความสุขครับ ซักผ้า จัดเรียงของในห้องให้เป็นระเบียบ เปิดเพลงหน้าคอม หาแรงบันดาลใจ
ยี่ : ของผมก็เหมือนพี่ดอย ช่วงนี้เหมือนหาเวลาอยู่ห้องทั้งวันนี่ไม่มีเลย ถ้าไม่อยู่ห้องก็น่าจะไปช้อปปิ้ง
💫 ถ้าตอนนี้ไม่ได้ทำ Safeplanet จะทำอะไรกันอยู่ ?
เอ : ผมน่าจะไปเป็นเชฟมั้งครับ ชอบทำอาหาร น่าจะไปอยู่สักโรงแรมนึง ไปเรียน Le Cordon Bleu แต่ว่าก็ทำเพลงแล้วมันโอเค ก็เลยทำตรงนี้ไปก่อน แต่ว่าในอนาคตก็ไม่แน่นครับ
ดอย : ถ้าตอนนี้ผมไม่ได้เล่นดนตรี ก็มี 2 ทางครับ เรียนป.โทต่อครับ แต่ก็คงเรียนเกี่ยวกับดนตรี เพราะว่าชอบดนตรี แล้วก็อีกทางอาจจะไปเรียนแบบพวกแฟชั่นหรือว่าเสื้อผ้า เพราะว่าชอบเสื้อผ้า (หัวเราะ)
เอ : ชอบใส่เสื้อ (ฮาาา)
ยี่ : ถ้าไม่ได้เล่นดนตรี จริง ๆ ก็อยากเปิดร้านกาแฟ เพราะว่าชอบกาแฟ แล้วก็อีกความฝันนึงก็คือแบบ อยากไปเที่ยวครับ อยากไปเที่ยวให้ได้เงินด้วย
เอ : บล็อกเกอร์ไง
ยี่ : แต่มันไม่มีจริงนะครับ (ฮาาา)
เอ : จบเลย
💫 พูดถึง Neonplanet Concert หน่อย
เอ : Neonplanet เป็นเหมือนการร่วมญาติของเราเนอะ อย่าเรียกคอนเสิร์ตใหญ่เลย แต่ว่าก็ จัดเต็มแน่นอน โปรดักชันส์ ซาวน์ แล้วก็จะมีเอเลเมนท์ในเพลงต่าง ๆ ก็จะได้ยินแบบเต็ม ๆ มีคอรัสผู้หญิง เครื่องเป่า เครื่องสาย แล้วก็มีวิชวลที่จัดเต็มแน่นอน
💫 ช่วงฝากผลงานหรือช่องทางการติดตาม
เอ :ติดตาม Safeplanet ได้เกือบทุกช่องเลยครับตอนนี้ เฟสบุ้คก็มี Safeplanet
ยี่ : ไอจี Safeplanet Band
เอ : ทวิตเตอร์ Safeplanet ยูทูป Safeplanet
ดอย : Band ?
เอ/ยี่ :ไม่ Band (ตบมุกกันสักหน่อยก่อนจาก 555)
