"

...เพราะความจนมันน่ากลัว

หนทางเอาตัวรอดของมนุษย์ จึงน่าเวทนา...

"

 

ขึ้นแท่นหนังที่ดีที่สุดในปี 2019 ไปแล้วสำหรับ 'PARASITE ' ชนชั้นปรสิต ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในฐานะหนังที่เสียดสีสังคมได้อย่างแยบยลและเจ็บแสบอย่างสุดซึ้ง แสดงให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำในสังคมได้อย่างชัดเจน เห็นภาพ จนบางครั้งก็แอบเผลอหัวเราะไปกับความตลกร้ายของชีวิตคน ที่ต้องดิ้นรนทำทุกอย่างเพื่อความอยู่รอดได้อย่างไม่น่าเชื่อ และสำหรับใครที่ยังไม่ได้ดู Jelly ขอแนะนำแรง ๆ เลยว่า "รีบไปดูเดี๋ยวนี้เลย!" เพราะมันดีเกินกว่าจะพลาดอะไรในหนังเรื่องนี้ไปจริง ๆ และสำหรับใครที่ดูแล้ว ก็ตามมาทางนี้ได้เลยเพราะ Jelly จะชวนคุณไปลองตีความฉากต่าง ๆ ที่ผู้กำกับจงใจใส่เข้ามาในหนัง เพื่อแฝงสัญลักษณ์และข้อความบางอย่างที่อยากจะบอกเล่าและแบ่งปันให้คนดูเข้าใจผ่านภาพและเรื่องราวในหนังนั่นเอง

 

parasite

cr. www.kompasiana.com

 

cr. youtube.com

 

ชวนดู... เบื้องหลังความสมจริงของ 'PARASITE' ชนชั้นปรสิต

 

cr. www.youtube.com

 

 

⛔️ คำเตือน : บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของหนัง เรื่อง PARASITE ชนชั้นปรสิต จึงไม่เหมาะกับผู้ที่ยังไม่ได้ดูนะคะ ⛔️

 

 

ตีความ PARASITE "ฝนเดียวกัน แต่หน้าต่างคนละบาน"


  • ในหนังเรื่องชนชั้นปรสิตเราจะได้เห็นฉากฝนตกผ่านหน้าต่างบานใหญ่ ของบ้านหรูที่ครอบครัวของตัวเอกได้ทำการแฝงตัวเข้าไปอยู่ โดยในวันที่เกิดเรื่อง ฝนห่าใหญ่ตกลงมาท่ามกลางสถานการณ์ที่กำลังวุ่นวายขึ้นทุกที ทั้ง ๆ ที่ในช่วงเวลาที่บ้านหลังใหญ่ไร้เงาเจ้าของบ้าน ฝั่งครอบครัวปรสิตก็ได้ใจพากันมายึดพื้นที่ 'บ้านคนอื่น' จัดปาร์ตี้กันยกใหญ่ พลางจิบโซจูแล้วมองหน้าต่างบานยาวในบ้านหลังใหญ่ ที่ในขณะนั้นสายฝนที่ตกลงมาเป็นเพียงแค่สายฝนอันชุ่มฉ่ำท่ามกลางบรรยากาศดี ๆ เมื่อทุกคนมองผ่านหน้าต่างหรู แต่ในคืนเดียวกันที่ครอบครัวปรสิตนี้กลับไปสู่บ้านตัวเองที่ทั้งสกปรกและซอมซ่อ หน้าต่างบ้านยาวที่มีคล้าย ๆ กัน สายฝนนั้นก็ตกลงมาจากฟ้าเดียวกัน แต่ห่าฝนนั้นกลับกลายเป็นภัยพิบัติที่นำความบรรลัยมาสู่ครอบครัวนี้ซะอย่างนั้น สายฝนจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ที่ย้ำเตือนกับคนดูได้ดีเสมอว่า "ถ้าเราอยู่สูงสายฝนจะเป็นความชุ่มฉ่ำใจ แต่ถ้าอยู่ต่ำเกินไปสายฝนจะเป็นรุ่มร้อนใจเสมอ"

 

parasite

cr. www.screendaily.com

 

ตีความ PARASITE "หินนำโชค?"


  • ฉากในตอนต้นเรื่องที่เล่าว่าครอบครัวปรสิตนี้ได้หินนำโชคก้อนใหญ่มาจากเพื่อนผู้ร่ำรวยของลูกชาย โดยทุกคนก็เชื่อฝังใจว่าหินเก่าแก่ก้อนนี้ จะนำความโชคดีมาสู่บ้านเฮงซวยนี่ แล้วหลังจากนั้นครอบครัวปรสิตก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นจริง ๆ เพราะทุกคนในบ้านได้งานทำจากบ้านเศรษฐี แถมยังอยู่ดีกินดีเพราะไปหลอกลวงเขาสำเร็จ จนกระทั่งวันหนึ่งที่สถานการณ์ของครอบครัวปรสิตกำลังสุ่มเสี่ยงว่าจะถูกเปิดโปง ลูกชายที่เชื่อในพลังของหินนำโชคมาตลอด แม้กระทั่งที่ผ่านมาเขาก็มักจะพกหินติดตัวไปไหนด้วยเสมอ สุดท้ายหินที่เขาเชื่อว่ามันจะนำโชคมาให้ กลับกลายที่หินก้อนใหญ่ที่ถูกหยิบมาทุบเข้าที่หัวของเขาจนปางตายแทน และสุดท้ายเมื่อทุกอย่างจบลง ลูกชายของครอบครัวปรสิตเอาหินออกจากแท่นวางสวยหรู แล้วนำกลับไปวางไว้ตามธรรมชาติอย่างที่มันควรจะเป็น เพราะสุดท้ายหินก็คือหิน และสัญญะนี้ได้บอกกับเราว่า หินนำโชคก็เปรียบได้กับครอบครัวปรสิตที่ถูกครอบงำด้วยแนวคิดวัตถุนิยมจนหลงลืมตัวเองไป "เพราะความจนมันน่ากลัว" พวกเขาจึงเกลียดในสิ่งที่ตัวเองเป็น จนต้องถีบตัวเองขึ้นไปอยู่ในที่ ๆ สูงกว่านี้ โดยไม่สนวิธีการว่าใครจะเดือดร้อนยังไง จนสุดท้ายหินมันก็เป็นได้แค่หิน มันหนักเกินกว่าจะไปอยู่บนแท่นวางสวยหรูนั้น จนกระทั่งสุดท้ายที่เรื่องราวคลี่คลาย ครอบครัวปรสิตได้บทเรียนบางอย่างกลับมา จึงได้รู้ว่าหินมันควรอยู่ในที่ของมันถึงจะดีที่สุด "...ก็จะให้ทำยังไงได้ล่ะ ในเมื่อชนชั้นของเรามันเหลื่อมล้ำกันขนาดนี้..."

 

PARASITE

cr. www.niusnews.com

 

ตีความ PARASITE "คุณคงรักเมียมากสินะ?"


  • เมื่อคนเป็นพ่อได้เข้ามาทำงานเป็นคนขับรถของบ้านเศรษฐีแล้ว เขาเองก็พยายามจะทำตัวให้ดี ทำงานให้ดี อยากจะทำดีเพื่อให้เป็นที่รักของเจ้านายอยู่เหมือนกัน '...แต่คำว่าดีของสองชนชั้นนั้นต่างกันเสียเหลือเกิน' การที่คนพ่อของครอบครัวปรสิตพยายามจะชวนคุย หลอกล้อกับเจ้านายบ่อย ๆ ด้วยประโยคคำถามง่าย ๆ ว่า "คุณคงรักภรรยาของคุณมาก?" มันแสดงออกถึงวิถีชีวิตของคนชนชั้นหนึ่ง ที่มองว่าการพูดคุยแบบนี้คือเรื่องปกติของคนใกล้ชิดกัน คล้าย ๆ กับการถามว่า กินข้าวหรือยัง? จะไปไหน? หรือมันคือการแสดงออกถึงความห่วงใย ใคร่อยากผูกมิตรสนิทสนมกับอีกฝ่าย แต่ในขณะเดียวกันกับคนอีกชนชั้นที่สูงกว่า พวกเขามองว่า นี่คือการ 'ลามปาม' เพราะพวกเขาไม่เคยมองว่าคนเหล่านี้คือมิตร เรียกง่าย ๆ ว่าความสัมพันธ์ระหว่าง 'เจ้าของบ้าน' กับ 'ครอบครัวปรสิต' มันคือ 'เจ้านายกับลูกน้อง' ต่างหาก ประโยคสั้น ๆ จากปากคนหนึ่งคนจึงกลายเป็นอีกหนึ่งชนวนสำคัญที่นำไปสู่โศกนาฏกรรมในตอนจบนั่นเอง

 

PARASITE

cr. www.youtube.com / SF Cinema

 

ตีความ PARASITE "แมลงสาบ"


  • ครอบครัวปรสิตถูกผู้กำกับอย่าง บงจุนโฮ สื่อออกมาโต้ง ๆ ให้คนดูรู้ว่า 'นี่คือครอบครัวแมลงสาบ' เพราะพวกเขาเข้ามาแทรกซึมในบ้านคนรวยอย่างไม่ถูกต้อง คอยเกาะกิน แทะเล็ม ทำตัวเป็นปรสิตในบ้านคนอื่นอย่างไร้จิตสำนึก วันไหนที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ก็ออกมารวมตัวกัน คุ้ยหาของในบ้านคนอื่นกิน แล้วพอเจ้าของกลับมาก็ต้องวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนกลับเข้ารูไปตามเดิม ซึ่งมีอีกหลาย ๆ ฉากเลยทีเดียวที่คำว่า 'แมลงสาบ' ถูกยกขึ้นมาพูด เพื่อสื่อถึงพฤติกรรมสุดน่าเวทนาของครอบครัวนี้ที่ทำตัวไม่ต่างอะไรกับแมลงปรสิตเอาเสียเลย

 

PARASITE

cr. www.allocine.fr

 

ตีความ PARASITE "วันนึงผมจะกลับมาซื้อบ้านหลังนี้"


  • ในช่วงท้ายของหนัง PARASITE หลังจากที่ครอบครัวปรสิตผ่านเรื่องราวทั้งหมดมาได้ ลูกชายออกตามหาพ่อจนกระทั่งได้รู้ว่าพ่อของเขาแอบเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในห้องใต้ดินบ้านหลังนั้นอีกครั้งเพื่อหนีคดี และคงออกมาเจอครอบครัวไม่ได้อีกต่อไป ลูกชายผู้สำนึกได้จึงสัญญากับตัวเองว่า "...เขาจะเริ่มต้นใหม่ จะตั้งใจเรียน สอบเข้ามหาวิทยาลัย มีงานดี ๆ มีอนาคตที่ดี แต่งงานมีลูก มีครอบครัว แล้วพอเขารวย เขาจะกลับมาซื้อบ้านหลังนี้ เพื่อวันหนึ่งที่เขาเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้แล้ว พ่อของเขาที่ติดอยู่ในชั้นใต้ดินจะได้เดินขึ้นมาบนดินอย่างสง่าผ่าเผย และไม่ต้องคอยหลบหนีใครอีกต่อไป เมื่อถึงวันนั้นครอบครัวของเขาก็จะได้อยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้ง..." ประโยคเพ้อฝันนี้อาจจะดูเป็นประโยคที่แสนธรรมดา แต่มันได้บอกกับคนดูว่า ในโลกทุนนิยมแห่งนี้ มันไม่เคยมีทางลัดสำหรับใคร ทุกคนต้องเริ่มต้นและไต่บันไดขึ้นไปตามเส้นทางที่ควรจะเป็นเหมือน ๆ กัน เงินและฐานะที่มั่นคงมากพอเท่านั้น ที่จะทำให้คุณลืมตาอ้าปากได้อย่างผ่าเผย จะได้ไม่ต้องคอยทำตัวเป็นกาฝาก แฝงตัวเกาะกินชีวิตใครอีกต่อไปนั่นเอง...

 

PARASITE

cr. www.youtube.com / SF Cinema

 


และนี่ก็คือการวิเคราะห์และตีความ ฉากและรายละเอียดสำคัญ ๆ จากหนังเรื่อง 'PARASITE' ชนชั้นปรสิต ที่ Jelly กล้าคอนเฟิร์มแรง ๆ เลยว่า มันคือหนังที่ควรดูสักครั้งก่อนตายจริง ๆ ! และใครที่อ่านแล้วก็ยังงง ๆ หรืออยากจะไปเก็บรายละเอียดเพิ่มเติมกันต่อ ก็ลองกลับไปดู PARASITE  กันอีกสักรอบแบบด่วน ๆ ก็ยังไม่สาย แล้วเราค่อยกลับมาเม้าท์มอยกันอีกครั้งก็ได้ว่าคิดเห็นเหมือนหรือแตกแต่งกันยังไงบ้างนะจ๊ะ!