พูดชื่อ ‘โอ-ปวีร์’ หลายคนคงรู้จักเขาในฐานะศิลปินที่ทำเพลงมาอย่างยาวนาน ศิลปินที่ทำเพลงรักร้าวให้เรามาเก็บใน Playlist ศิลปินที่ทำเพลงออกมาให้คนในร้านเหล้าร้องเพลงของเขาเคล้าน้ำตา แต่หารู้ไม่ว่าแรงบันดาลใจในการเขียนเพลงของเขาก็มาจากพวกเราทุกคนนี่แหละค่ะ วันนี้ Jelly พาไปรู้จัก ‘โอ-ปวีร์’ ให้มากขึ้น จากศิลปินหนุ่มที่ทำเพลงฮิตขึ้นชาร์ต Fat Radio วันนั้นเขาทำอะไรอยู่ในวันนี้
เริ่มเข้ามาในวงการดนตรีจริง ๆ ตั้งแต่ที่ผมเริ่มผลิตงานดนตรีเอง ตอนนั้นยังเป็นศิลปินใต้ดิน เริ่มตั้งแต่สมัยช่วง Fat Radio ผมเป็นเด็กต่างจังหวัดธรรมดา ๆ ที่มาเที่ยวงาน Fat Festival ก็เริ่มเห็นว่ามีศิลปินอินดี้เขาทำผลงานเอามาขาย เอามาแลกเปลี่ยนกันในงาน ทำให้เห็นว่า เฮ้ย เราก็สามารถทำได้หนิ เราไม่จำเป็นต้องมีค่ายเพลงก็ได้ ผมก็เลยเริ่มทำผลงานเอง
หลังจากทำเพลงแล้ว ผมก็เริ่มเอาเดโม่ส่งไปที่ Fat Radio อีกเหมือนเดิม มันจะมีช่วง Bedroom Artist เป็นพื้นที่ให้ศิลปินอินดี้ส่งเพลงมา แล้วเขาก็เอามาเปิดให้ ผมก็ส่งเพลงไปเพลงแรกชื่อ ‘Superman’ จากนั้นก็มีคนรู้จักมากขึ้น
ใช่ครับ ตอนนั้น ‘ดีเจฤทธิ์’ (วราฤทธิ์ มังคลานนท์) เป็นคนเปิด จากนั้นคนก็ชอบกัน มีคนขอเข้ามาเยอะ
ส่วนมากจะแต่งเอง มีบางทีที่ตัน ๆ ก็ไปแต่งกับคนอื่นบ้าง แต่ไอเดียโดยรวมก็จะมาจากเรา ซึ่งก็จะเป็นเพลงเกี่ยวกับความรักซะเยอะที่หลาย ๆ คนรู้จัก หรือเคยฟังก็จะเป็นเพลงรัก เพลงอกหักบ้างประมาณนี้ครับ
ถ้าจำได้จริง ๆ ในฐานะศิลปินเลยน่าจะเป็นเพลง ‘พยายาม’ ครับ ทำให้คนรู้จักเรามากขึ้นจากที่เมื่อก่อนเคยทำเพลงแบบอินดี้ ก็มามีคนรู้จักในตลาดที่ใหญ่ขึ้น
ผมเป็นคนที่ชอบอ่านจากใน Twitter บ้าง Facebook บ้าง ชอบอ่านที่เพื่อน ๆ หลายคนมาระบายเรื่องราวของเขา บางทีก็ดูหนัง หรือคุยกับคนอื่น บางทีแค่ประโยคเดียว หรือคำคำเดียว มันก็ทำให้ผมมีแรงบันดาลใจขึ้นเลย
เหมือนกับเพลงหนึ่งของผมชื่อ RIP (Love) ท่อนฮุคมันคือ “จบแบบเจ็บ ๆ ดีกว่าต้องเจ็บซ้ำ ๆ” อันนี้ผมก็ไปเห็นมาจากในทวิตเตอร์ เค้าบอกว่าจบไปเลยดีกว่า จะได้พอสักที ขอครั้งนี้ครั้งเดียวให้มันเจ็บสุด ๆ แล้วจบ ผมอ่านแล้วรู้สึกว่าเราชอบ มันอิน ผมก็จะเอามาเป็น Input ตั้งต้นสำหรับงานของผม
คนแรกที่เป็นศิลปินคือ John Mayer ผมฟังเขาตั้งแต่ผมเรียน ม.3 ตอนนั้นเขาเพิ่งออกอัลบั้มมาใหม่ ๆ เป็นหนุ่มไฟแรง เป็นศิลปินม้ามืดของอเมริกา เขาสามารถที่จะร้องเพลงบนเวทีกับกีต้าร์ตัวหนึ่งได้แบบดีมาก ผมประทับใจมาก ทำให้ผมคิดว่าเราน่าจะทำแบบนั้นได้นี่หว่า ลองฝึกดูดีกว่า ทำให้ผมพัฒนาตัวเอง ฝึกฝนตัวเองมากขึ้น
สำหรับวงดนตรีเป็น Linkin Park ครับ (ยิ้ม) ชอบเพราะ Mike Shinoda (มือกลองของวง) เขาเป็นคนแต่งเพลง เป็นเหมือนหัวใจของวงเลย ซึ่งผมติดตามเขามาตั้งนานแล้ว อยากทำเพลงเพราะเขาเลย เวลาอยู่ในสตูดิโอทำเพลงก็มีเขาเป็นแรงบันดาลใจ
ส่วนมากช็อปปิ้งออนไลน์ครับ จะสั่งในไอจีเลย มีไปห้างบ้างนิด ๆ หน่อย ๆ
ผมเลือกสีสันครับ ผมเป็นคนชอบอะไรที่มันมีสีสัน
กาแฟแน่นอน ผมดื่มอเมริกันโน่ครับ
ฝรั่งก็ได้ครับ (หัวเราะ)
ตอนนั้นผม 7 - 8 ขวบ ผมเปิดประตูรถแล้วมีใครไม่รู้มาผลักประตูรถปิดใส่นิ้วผม ปัง! เจ็บมาก ยังจำได้อยู่เลยว่าความรู้สึกเจ็บตอนนั้นเป็นยังไง
เกิดจากตอนนั้นผมถามแฟนเพลงในไอจี ว่าใครมีประสบการณ์ความรักแบบไหนบ้าง ช่วยแชร์หน่อยสิ แล้วก็มีหลาย ๆ คน ส่งเรื่องราวของตัวเองมา แล้วผมก็ไปถูกใจกับเรื่องหนึ่งเป็นการวนลูปของน้องคนหนึ่ง มันเป็นความสัมพันธ์แบบที่ต้องทนกับความเย็นชา ความปวดร้าว แต่ว่าตัวเขาไม่สามารถจะออกมาจากความสัมพันธ์นั้นได้ ผมเลยรู้สึกว่าเออทำไมเจ็บไม่จำสักที เจ็บอีกกี่ครั้งถึงจะพอ แล้วก็เดินออกมาได้ ก็เลยเป็นแรงบันดาลใจในการแต่งเพลงนี้
ขอบคุณที่มีอะไรก็ซัพพอร์ตตลอด แฟนเพลงกับศิลปินเป็นอะไรที่ขาดกันไม่ได้อยู่แล้ว ต่อให้คุณจะติสท์ขนาดไหนแต่คุณทำเพลงก็เพราะอยากให้มีคนร้องไปกับคุณ คุณต้องอยากไปเล่นดนตรีในที่ที่มีคนฟังคุณใช่ไหม เพราะฉะนั้นแฟนคลับเป็นสิ่งสำคัญโดยที่เราไม่ต้องพูดเลยว่าอยากขอบคุณเขามากแค่ไหน ถ้าเกิดเราไม่มีเขา เราก็อาจจะไม่มีผลงานเลยก็ได้
เป็นอีกหนึ่งศิลปินที่ Jelly กล้าการันตีว่าร้องสดได้เสียงเพราะ แล้วก็ทำเพลงถ่ายทอดความรู้สึกได้ดีมาก ๆ อีกคนหนึ่งเลยล่ะ
ติดตามผลงานของ O-Pavee ได้ที่
Youtube : BOXX MUSIC
Facebook : O-Pavee
IG : o.pavee