ปฎิเสธไม่ได้เลยว่ากระแสของการทาลิปสติกเนื้อแมทนั้นมาแรงแซงทางโค้งจริงๆ ถึงแม้ว่าจะมีกระแสความนิยมของการทาลิปสติกประเภทนี้มาสักพักแล้ว แต่ก็ยังคงความฮอตฮิตติดริมฝีปากของสาว ไทยหลายคนให้เห็นอยู่ไม่น้อย และมีทีท่าว่าความนิยมนี้จะมีเพิ่มมากขึ้นเสียด้วย เนื่องจากมีเชดสีให้เลือกมากมาย รวมถึงแบรนด์เครื่องสำอางแทบทุกแบรนด์ต่างผลิตออกมาแข่งขันกันอย่างไม่น้อยหน้า แม้แต่ดาราเซเลบไทยได้ตอกย้ำความฮิตนี้ด้วยการผลิตแบรนด์ลิปสติกเนื้อแมทเป็นของตัวเองกันอยู่หลายคน แต่! เชื่อว่ายังมีสาว ๆ ที่ไม่กล้าทาหรือเสียความรู้สึกกับการทาลิปสติกประเภทนี้ เนื่องจากบางคนทาไปแล้วปากแห้ง ตกร่อง ลอกเป็นขุย ไม่ติดทนนาน วันนี้เรามี 7 วิธีเคล็ดไม่ลับในการทาลิปสติกเนื้อแมทให้สวยทนติดนานมาบอกกัน รับรองว่าจะต้องอินเลิฟกับการทาลิปสติกเนื้อแมทอย่างแน่นอน
ก่อนจะทาลิปสติกให้สวย ผิวปากก็ต้องสวยด้วยเหมือนกันน้า ผิวหนังของปากเป็นอะไรที่สำคัญมาก ๆ การที่เราสครับปากอยู่สม่ำเสมอจะทำให้ผิวหนังที่ตายแล้วหลุดลอกออกไป สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการนำน้ำตาลทรายมาผสมกับน้ำผึ้งให้เข้ากันแล้วทำมาขัด ๆ ถู ๆ อย่างเบามือ บริเวณริมฝีปากประมาณ 5-10 นาที แล้วล้างออก หรือหากใครไม่มีเวลา ทุกครั้งหลังการแปรงฟันให้นำแปรงสีฟันมาแปรงเบา ๆ ที่ริมฝีปากด้วยก็จะเป็นการสครับปากเช่นกัน
หลังการสครับปากทุกครั้งควรบำรุงด้วยผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื่นอยู่เสมอ การทางลิปบาล์มหรือวาสลีนทิ้งไว้ตอนกลางคืนนั้นทำให้ตื่นมาตอนเช้า สาว ๆ จะพบว่าปากเนียนนุ่ม และดูสุขภาพดี เจอลิปสติกเนื้อแมทเข้าไปไม่ลอกเป็นขุยให้กวนใจอย่างแน่นอน
ลิปสติกเนื้อแมทที่สาว ๆ เจอกันนั้นบ้างก็มาในรูปแบบแท่ง แบบดินสอ แบบจิ้มจุ่มที่มีด้ามแปรงให้ หรือแบบหลอดบีบ แต่จะทาอย่างไรให้เส้นขอบปากคมเป๊ะ ไม่เลอะเทอะจนดูปากเบินแล้วล่ะก็ ให้ใช้แปรงสำหรับทาลิปสติกแตะเนื้อผลิตภัณฑ์ออกมาอย่างละนิดเพื่อวาดเส้นขอบปากให้ชัดเจนแล้วค่อยทาบริเวณที่เหลือให้เต็มอบ่างเบามือเป็นชั้นแรก
หลังจากทาชั้นแรกเสร็จเรียบร้อยแล้ว ปล่อยให้เนื้อลิปสติกแห้งสักพักแล้วใช้นิ้วมือกดแตะ เบา ๆ ที่ริมฝีปากเพื่อเน้นให้เนื้อลิปสติกซึมและฝังลึกลงผิวปาก
หลังจากกดด้วยนิ้วมือให้ติดแน่นในชั้นแรกแล้ว นำแปรงสะอาดที่มีขนาดพอเหมาะกับปากแตะแป้งฝุ่นเพียงเล็กน้อยแล้วนำมาแตะบนปากเบา ๆ แอบกระซิบว่าวิธีนี้แอดมินลองทำตอนวันรับปริญญาเจอทั้งฝนทั้งแดดในวันเดียว เหงื่อออก กินน้ำบ่อยมากแต่ลิปสติกไม่หลุดเลย ผงของแป้งฝุ่นจะเกาะกับเนื้อลิปสติกที่จะช่วยให้ติดทนนานยิ่งขึ้นไปอีก
การทาลิปสติกเนื้อแมทในชั้นที่สองให้ทาปกติเหมือนชั้นแรกโดยใช้แปรงสำหรับทาลิปสติก ให้ทาด้วยความระมัดระวังเพื่อความเป๊ะและสวยงามก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
หากเรามีความจำเป็นต้องออกไปข้างนอกเป็นเวลานาน ๆ เช่น อาจจะมีนัดกินข้าวและบางทีเราอาจจะกินอาหารอย่างหนักหน่วงทำให้เนื้อลิปสติกอาจหลุดออกไปบ้าง ถ้ากลัวไม่เป๊ะเพื่อความอุ่นใจก็พกไปเติมระหว่างวันได้ แต่เชื่อว่าหากสาว ๆ ได้ทำตามขั้นตอนที่ว่ามาทั้งหมด การพกลิปสติกก็ไม่จำเป็นอีกต่อไปจ้า
เป็นอย่างไรกันบ้าง หวังว่าจะถูกใจสาว ๆ ที่กำลังจะคิดลองทาลิปสติกเนื้อแมทและอาจจะช่วยให้สาว ๆ ที่ผิดหวังกลับมามีความมั่นใจในการทาลิปสติกเนื้อแมทอีกครั้งนะคะ