มาตามคำเรียกร้องแล้วจ้าาา (ใครเรียกหล่อนคะ!?!) ก็แหมมม พอโลกของเรากำลังจะก้าวย่างเข้าสู่ยุค 2020 แบบนี้ แน่นอนว่าเทคโนโลยีและชะนีอย่างเรา ๆ ก็ถูกแรงดึงดูดเหวี่ยงเข้ามาใกล้กันมากขึ้นทุกที ๆ เพราะนอกจากเรื่องราวความงามและความบันเทิงแล้ว เทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ก็กลายเป็นเรื่องน่าสนใจที่นับวันยิ่งถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้คนในทุกเพศทุกวัยมากขึ้น เช่นเดียวกันกับ 'หูฟังไร้สาย' ที่หลาย ๆ คนเรียกร้องเข้ามาให้ Jelly ช่วยแนะนำทุกยี่ห้อทุกรุ่นที่ทั้งถูกและดี แถมยังดีไซน์สวยถูกใจสาว ๆ ให้หน่อยเพราะฉะนั้นอย่ารอช้า ไปดูกันดีกว่าว่าจะมีรุ่นไหนที่น่าสนใจกันบ้างนะ!?!
แบรนด์ : Xiaomi
รุ่น : Mi True Wireless Earphones
ฟังก์ชันที่น่าสนใจ :
พลังเสียงคุณภาพยอดเยี่ยม สามารถฟังได้ต่อเนื่องมากกว่า 10 ชั่วโมง (ระยะเวลาชาร์จไฟเพียง 1 ชั่วโมง)
สัญญาณเชื่อมต่อมีความเสถียร ทำให้เชื่อมต่อง่ายด้วยระบบ Bluetooth 4.2 และมีระยะห่างของการเชื่อมต่อถึง 10 เมตร
เสียงดนตรีจะหยุดทันทีหากนำหูฟังออกจากหูในขณะที่เล่นดนตรี ทั้งยังรับสายเรียกเข้าได้ตลอดเวลา
มีระบบสัมผัสที่ควบคุมการใช้งานได้ง่าย ๆ เพียงการใช้นิ้วแตะเบา ๆ ที่ตัวหูฟัง เพื่อใช้ในการควบคุมการเปิด / ปิดเสียงดนตรี หรือแม้กระทั่งการรับสายหรือวางสายก็ได้เช่นกัน
น้ำหนักเบากำลังดี (น้ำหนักรวม 58 กรัม ข้างละ 5.8 กรัม) ขนาดไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป
แบตเตอรี่มีความอดทนในระดับหนึ่ง มาพร้อมเคสชาร์จที่ใช้ระยะเวลาในการชาร์จไฟเพียง 1 ชั่วโมง
กันน้ำระดับ IPX4 (IPX4 กันเหงื่อ หรือ ละอองน้ำ)
เมื่อถอดหูฟังออกเพลงจะถูกหยุดอัตโนมัติ และเมื่อใส่กลับเข้าไปในหูเพลงก็จะเล่นต่ออัตโนมัติเช่นเดียวกัน
ดีไซน์สวยงาม ดูดีดูแพง
ข้อดี : มีความตัวตายตัวแทนของ Airpods อยู่ประมาณนึงด้วยทั้งคุณภาพเสียงและการใช้งาน แต่มาในราคาที่จับต้องได้ และใช้ได้กับทุกเครื่องทุกค่าย
ข้อเสีย : อาจมีขนาดใหญ่ไปหน่อยสำหรับคนที่เคยใช้ยี่ห้ออื่นมาก่อน อันนี้แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลเลยจ้า (แต่ Jelly ปลื้มมากกก!)
ราคา : 2,399 บาท
เปิดวาร์ปแหล่งซื้อ : www.mi.com/th และ Mi Store ทุกสาขาทั่วประเทศ
แบรนด์ : Xiaomi
รุ่น : Mi True Wireless Earbuds Basic (Redmi Airdots)
ฟังก์ชันที่น่าสนใจ :
เป็นสินค้ารุ่น Global Version
คุณภาพเสียงถือว่าดีพอใช้ได้ ไม่ได้โหดระดับเทพ แต่ก็ไม่ได้แย่จนปวดหู ยังพอมีเบสหนึบ ๆ หน่วง ๆ ให้รู้สึกเสียงมีความแน่นอยู่
สัญญาณเชื่อมต่อมีความเสถียร ทำให้เชื่อมต่อง่ายด้วยระบบ Bluetooth 5.0
ติดตั้งเทคโนโลยี DSP ที่ช่วยลดเสียงรบกวนจากสิ่งแวดล้อมภายนอก
น้องคนนี้จัดว่ามีความเบาสบายหู เพราะด้วยน้ำหนักเพียงข้างละ 4.1 กรัม
สามารถใช้งานได้ทั้งระบบ Android และ iOS
สามารถเรียกใช้งาน Google Assistant รวมถึง Siri ได้ด้วยการแตะเพียง 2 ครั้ง
ตัวหูฟังสามารถใช้งานได้ 4 ชั่วโมง (ใช้เวลาชาร์จไฟ 1.5 ชั่วโมง)
ตัวเคสชาร์จมีแบตเตอรี่ขนาด 300 mAh สามารถชาร์จหูฟังได้ 2 ครั้ง
มีปุ่มมัลติฟังก์ชันที่สามารถกดเปิด / ปิดเพลง หรือกดรับสาย / วางสายได้
หูฟังสามารถกันน้ำ ระดับ IPX4 (IPX4 กันเหงื่อ หรือ ละอองน้ำ)
เมื่อหูฟังอยู่นอกกล่องชาร์จและไม่มีการใช้งาน ชุดหูฟังจะปิดตัวเองโดยอัตโนมัติในเวลาประมาณ 5 นาที
กล่องชาร์จไม่สามารถกันน้ำได้
แบรนด์ : ZNT
รุ่น : Macaroon
ฟังก์ชันที่น่าสนใจ :
จุดเด่นที่เห็นแล้วเตะตาเป็นอันดับแรกก็คือดีไซน์น่ารักที่มาพร้อกับสีชมพูสวยหวานกับขนาดกระทัดรัด เหมาะกับสาว ๆ ที่ชอบไอเทมน่ารักปุ๊กปิ๊กมาก!
เสียงดังฟังชัด ไม่ดีเลย์มาก เหมาะสมกับราคา
สัญญาณเชื่อมต่อมีความเสถียร ทำให้เชื่อมต่อง่ายด้วยระบบ Bluetooth 5.0
แบตเตอรี่หูฟังขนาด 50 mAh ใช้งานต่อเนื่องได้เป็นเวลา 4 ชั่วโมง และสามารถใช้งานต่อได้ถึง 20 ชั่วโมงด้วยการชาร์จผ่านตัวเคสชาร์จขนาด 520 mAh
มีปุ่มมัลติฟังก์ชันที่สามารถกดเปิด / ปิดเพลง หรือกดรับสาย / วางสายได้
หูฟังสามารถกันน้ำและฝุ่นได้ในระดับ IPX5
เมื่อถอดหูฟังออกเพลงจะถูกหยุดอัตโนมัติ และเมื่อใส่กลับเข้าไปในหูเพลงก็จะเล่นต่ออัตโนมัติเช่นเดียวกัน
เป็นสินค้ารุ่น Global Version ใช้งานได้กับอุปกรณ์ที่มีระบบบลูทูธทุกประเภท
แบรนด์ : Sabbat
รุ่น : E12 Ultra
ฟังก์ชันที่น่าสนใจ :
คุณภาพเสียงดัง ฟังชัด คมกริบ แถมยังเบสแน่นตึ๊บ สวนทางกับราคาเพราะว่าถูกและเสียงดีมากเวอร์!
เป็นหูฟังทรง Custom IEM ที่มีรูปร่างแตกต่างจากหูฟัง True Wireless ทั่วไป ทำให้สามารถใส่เข้ากับหูของผู้สวมใส่ได้อย่างพอเหมาะ โดยไม่แน่นหรือหลวมจนเกินไป แถมใส่ไปนาน ๆ ก็ไม่เจ็บหูด้วยนะ
วัสดุเป็นพลาสติกแบบเงา Glossy ให้ความรู้สึกหรูหราหมาเห่า แถมยังเบาหวิวเพราะมีน้ำหนักเพียง 4.2 กรัมต่อข้างเท่านั้น
เชื่อมต่อแบบเนียน ๆ ด้วยระบบ Bluetooth 5.0 รวมทั้งยังมีเทคโนโลยี aptx ที่จะมาช่วยให้คุณภาพของไฟล์เสียงที่เล่นผ่านหูฟัง True Wireless รุ่นนี้ มีคุณภาพเสียงเทียบเท่าเสียงจากแผ่นซีดีไปอี๊กกก
มีไมโครโฟนทั้งหมด 4 ตัวพร้อมกับเทคโนโลยี cVc 8.0 (Clear Voice Capture) ที่จะช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้างได้ แม้ว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมกลางแจ้งก็ตาม
รองรับการใช้งานคำสั่งเสียง Voice Assistant ได้ทั้ง Siri และ Google Assistant
หูฟังสามารถกันน้ำและฝุ่นได้ในระดับ IPX5
สามารถใช้งานดูหนังฟังเพลงรวมถึงการโทรศัพท์ได้ 6 ชั่วโมงติดต่อกัน โดยสามารถชาร์จที่เคสชาร์จได้อีก 4 ครั้ง ทำให้ระยะเวลาการใช้งานสูงสุดอยู่ที่ 30 ชั่วโมงนั่นเอง
แบรนด์ : AWEI
รุ่น : B922BL
ฟังก์ชันที่น่าสนใจ :
แบรนด์ : Asaki
รุ่น : A-K6653
ฟังก์ชันที่น่าสนใจ :
เสียงที่ใส คมชัด รองรับการใช้งานทั้งในระบบ IOS และ ANDROID ใช้ได้กับสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และอุปกรณ์ที่รองรับ
มาในทรงสุดฮิตอย่าง 'earbud' ที่ดูทันสมัย ไร้สาย และสะดวกสบายต่อการใช้งาน ในความยาวประมาณ 4.5 ซม. (คล้าย ๆ Airpod ของ Apple นั่นแหละ)
ก้านหูฟังมีความสกรีนโลโก้ Asaki และสัญลักษณ์ Bluetooth 5.0 ซึ่งเป็นบลูทูธรุ่นล่าสุดที่มีความสเถียรและประหยัดพลังงานมากกว่าเดิม
ควบคุมการทำงานด้วยปุ่มกดเล็ก ๆ ที่จะแสดงสถานะการทำงานผ่านช่องไฟ LED เล็ก ๆ ด้านล่าง ที่สำคัญยังมีไมค์ในตัวติดอยู่ด้านล่างของก้านหูฟังนั่นเอง
มาพร้อมเคสชาร์จหูฟัง มีฝาครอบด้านบนเป็นพลาสติก น้ำหนักเบาพกพาสะดวก
เรียกได้ว่า Jelly ยังคงคอนเซ็ปต์ 'ถูกและดี' เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือถ้าใครชอบต้องแชร์ให้โลกรู้เลยนะ ว่าหูฟังไร้สายดี ๆ ราคายอมเยาว์แบบนี้ยังมีอยู่จริงจ้าา! และถ้าใครอยากให้ Jelly แนะนำอะไรดี ๆ แบบนี้ก็รีเควสกันมาได้เลยจ้า รับรองเลยว่าจัดเต็มเหมือนเดิมแน่น๊อนนน!